โปรแกรม php คืออะไร
PHP เป็นภาษาโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน โดยเฉพาะในการสร้างเว็บไซต์แบบไดนามิก สามารถใช้สำหรับจัดการฐานข้อมูล สร้างฟอร์ม รับข้อมูลจากผู้ใช้ และทำงานร่วมกับ HTML เพื่อสร้างเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
PHP เป็นภาษาที่ทำงานบนฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งหมายความว่าการประมวลผลจะเกิดขึ้นที่เซิร์ฟเวอร์ก่อนที่จะส่งผลลัพธ์ไปยังเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ นอกจากนี้ PHP ยังสามารถใช้ร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูล เช่น MySQL และมีชุมชนผู้ใช้ขนาดใหญ่ที่สนับสนุนและพัฒนาเฟรมเวิร์กต่าง ๆ เช่น Laravel, Symfony, และ CodeIgniter ทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
จุดเด่นของ PHP คือ ความง่ายในการเรียนรู้ การใช้งานที่หลากหลาย และการรองรับที่ดีจากเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ทำให้เป็นที่นิยมในวงการพัฒนาเว็บ
ทำไมต้องมีการอัพเกรด PHP?
- ความปลอดภัย: เวอร์ชันใหม่ ๆ มักจะมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งช่วยปกป้องเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจากการโจมตีและภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
- ประสิทธิภาพ: PHP เวอร์ชันใหม่มักจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพ ทำให้การทำงานของแอปพลิเคชันเร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรน้อยลง
- ฟีเจอร์ใหม่: การอัพเกรดช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่มีการเพิ่มเข้ามา เช่น การสนับสนุนสำหรับการเขียนโค้ดที่ดีขึ้น หรือฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้งานบางอย่างง่ายขึ้นการสนับสนุน: เวอร์ชันเก่าของ PHP อาจหมดอายุการสนับสนุน ซึ่งหมายความว่าจะไม่ได้รับการอัปเดตหรือแก้ไขปัญหาใด ๆ ทำให้มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเสถียร
- ความเข้ากันได้กับเฟรมเวิร์กและไลบรารี: หลายเฟรมเวิร์กและไลบรารีที่ใช้ใน PHP มักต้องการเวอร์ชันใหม่ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้ากันได้
การอัปเกรด PHP จึงเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโปรแกรมในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันในระยะยาว
Website WordPress อาศัย Program PHP เป็นหลัก ในการพัฒนา จึงต้องมีการอัพเดท โปรแกรมเมื่อถึงวาระ รวมถึง Plugin และ Theme ต่างๆ เมื่อ Program PHP อัพเกรด ก็จะต้องมีการพัฒนาเพื่อให้รองรับการทำงานร่วมกับ Program PHP ด้วย
เกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีการอัพเกรด ?
- ฟังชั่นต่างๆ ที่ Plugin และ Theme ไม่ทำงาน
- เกิดช่องโหว่ของไวรัส
- การแสดงเว็บไซต์ไม่ปกติ
WordPress จะแจ้งเตือนใน DashBoard ของเว็บไซต์เมื่อถึงวาระ
วิธีอัพเกรด PHP ใน DirectAdmin
ล็อกอินเข้าระบบ DirectAdmin ที่ได้รับจากผู้ให้บริการโฮสต์
เมื่อล็อกอินเข้าได้แล้ว ค้นหาเมนู Account Manager >>>คลิก Domain Setup
เมื่อคลิก Domain Setup จะปรากฏชื่อโดเมนเนม >>>คลิกที่ชื่อโดเมนเนม จะปรากฏหน้า Modify Domain คลิก PHP Version Selector >>จะปรากฏหน้าต่างให้เลือก Version ต่างๆ ของ PHP >>ให้เลือก Version สูงสุด >> เมื่อเลือกแล้ว กดปุ่ม Save
เว็บไซต์ก็จะอับเกรดเป็น PHP Version ใหม่ ทันที
**ปัญหาต่างๆที่คุณอาจพบเมื่อกับเกรด Version PHP แล้ว**
เว็บไซต์อาจไม่แสดงผล เป็นหน้าว่างเปล่า แสดงว่า Plugin และ Theme ยังไม่ได้มีการพัฒนาให้เข้ากับ Version ใหม่ คุณอาจจะต้องกลับมาดาวน์เกรด PHP Version ด้วยการเลือก PHP รุ่นเก่ากว่า แต่ในทางที่ดี แนะนำให้ใช้ Theme และ Plugin ที่มีการพัฒนาให้สามารถเข้ากับ PHP รุ่นใหม่ได้ จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากขิ่งขึ้น
ความคิดเห็นล่าสุด