การทำเว็บไซต์ด้วย WordPress นอกจากการเลือกใช้ theme ที่ดีที่สุดแล้ว จะต้องเลือกลง plugin เพื่อเสริมประสิทธิภาพ หรือเพิ่มฟังชั่นสำหรับเว็บไซต์ การเลือกใช้ plugin มากน้อยแค่ไหน อย่างไร ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของเว็บไซต์ เพราะแต่ละเว็บไซต์ มีวัตถุประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

การเลือกใช้ Plugin สำหรับเว็บไซต์ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียด การเลือก Plugin ผิดทำให้มีผลเสียต่อเว็บไซต์หลายอย่าง Plugin บางตัวอาจจะขัดแย้งการทำงานของ theme หรือ plugin ที่คุณกำลังใช้อยู่ หรือ plugin ที่ด้อยคุณภาพมีผลกระทบทางด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์ ทำให้เว็บไซต์ถูกแฮกได้

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า plugin ตัวไหนดีหรือไม่ดี?

วิธีตรวจสอบง่ายๆ เบื้องต้นคือ การอ่านรีวิวของ Plugin นั้นๆ ตรวจสอบค่านิยมของ Plugin นั้นๆ ว่ามียอดดาวน์โหลดดีหรือไม่ เมื่อคุณมั่นใจ จึงนำมาใช้งาน เมื่อเปิดใช้งาน plugin ที่ติดตั้งใหม่ๆ ควรตรวจสอบการทำงานของเว็บไซต์ด้วยว่า มีฟังชั่นไหนผิดปกติบ้าง

Plugin ฟรี มักจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย และ ฟังชั่นการใช้งานที่ไม่สมบูรณ์ ปัญหาเรื่องความปลอดภัยมักจะเกิดจากนักเขียนโค๊ตมือใหม่ออกแบบ plugin ออกมาเพื่อให้ทดลองใช้งาน ส่วนปัญหาของความไม่สมบูรณ์ของฟังชั่น มาจากเหตุผลสองประการคือ มาจากนักเขียนมือใหม่ หรือ มาจากนักเขียนมืออาชีพที่ปิดฟังชั่นบางอย่างไว้ เพื่อให้ผู้ใช้ชำระเงินเพื่อเปิดฟังชั่นการใช้งาน

แนะนำ 5 Plugin ฟรีที่จำเป็นต้องลงสำหรับเว็บไซต์

plugin เหล่านี้ ได้ตรวจสอบแล้วว่า มีค่านิยมสูง มีการใช้งานเยอะ มีรีวิวที่ดี และมีประโยชน์ต่อเว็บไซต์จริง

1. 1. Resize image after upload เขียนขึ้นโดย ShortPixel เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญทางด้านการเขียนโค๊ตเพื่อพัฒนา WordPress โดยเฉพาะ Resize image after upload ถูกเขียนขึ้นเพื่อปรับขนาดของภาพในขณะที่คุณอับโหลด โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องไปปรับขนาดภาพใน photoshop หรือ โปรแกรมปรับขนาดภาพอื่นๆ ก่อนการอับโหลดขึ้นเว็บไซต์ เพียงคุณตั้งค่าขนาดภาพที่ต้องการไว้ Plugin ตัวนี้จะช่วยปรับขนาดให้ตามที่ตั้งไว้
      ทำไมต้องปรับขนาดภาพก่อนอับโหลดขึ้นเว็บไซต์ ?  ขนาดของภาพมีผลอย่างยิ่งกับการเวลาในการโหลดของเว็บไซต์ภาพยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งใช้เวลาในการโหลดนานมีผลกับการเยี่ยมชมเว็บไซต์โดนตรง จะทำให้คุณเสียลูกค้าไป กูเกิลตัดคะแนน SEO เนื่องจากการใช้เวลาในการโหลด การใช้ไฟล์ภาพขนาดใหญ่ยังส่งผลให้การใช้พื้นที่สำหรับโฮสต์เว็บไซต์เต็มเร็วขึ้น คุณอาจต้องเสียค่าเพิ่มพื้นที่โดยไม่จำเป็น
      
   2. WP Fastest Cache เขียนขึ้ยโดยทีมงาน wpfastestcache.com มีวัตถุประสงค์ในการเพื่อความเร็วของเว็บไซต์ ด้วยเหตุผลเดียวกับข้อแรก การที่เว็บไซต์ของคุณโหลดได้เร็วขึ้น ก็จะทำให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ประทับใจ คะแนนกูเกิล SEO ก็จะดีขึ้น ยอดขายบนเว็บไซต์ก็ดีขึ้น
      
   3. Akismet Anti-Spam เป็น Plugin ที่มาพร้อมกับ WordPress เป็นระบบป้องกันสแปม ตรวจสอบและบล็อก user ต่างๆ ที่ส่อแววว่าเป็นสแปม เขียนขึ้นโดย Automatic บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่พัฒนา Plugin สำหรับ WordPress โดยตรง
      
   4. ShortPixel Image Optimizer เขียนขึ้นโดยทีมงาน ShortPixel มีวัตถุประสงค์ในการจัดการไฟล์ภาพต่างๆ resized/rescaled ภาพที่อับโหลดขึ้นเว็บไซต์แล้ว ให้มีขนาดเล็กลง แตกต่างจาก plugin ในข้อที่ 1 คือการปรับภาพในขณะอับโหลด แต่ ShortPixel จะไปจัดการไฟล์ทั้งหมดที่อยู่บนเว็บไซต์
      
   5. Site Kit by Google ผลิตโดยทีมงาน Google สำหรับตรวจสอบผล SEO ของเว็บไซต์ เป็นการเชื่อมโยง Plugin เข้ากับระบบรายงานต่างๆ ของกูเกิล  Analytics, Search Console, AdSense, Speed เป็นต้น สำหรับเว็บไซต์ที่เน้นประสิทธิภาพ ควรใช้  Site Kit by Google คุณะเห็นรายงานจากการล็อกอินเข้า Dashboard ของ WordPress ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอินหลายที่เพื่อตรวจสอบ